เครื่องสำอางค์ไทยบริสุทธิ์ คือสมบัติอันล้ำค่า เป็นมนต์เสน่ห์ของดินแดนแห่งรอยยิ้ม!

  • ไทย
  • English

ความลับของกรรมวิธีการนำเปปไทด์มาประยุกต์ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางของ นินา บูดา «Nina Buda»

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะบางและแห้งลง ผิวหน้าดูหมองคล้ำและจะปรากฏริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า เครื่องสำอางค์จากทุกยี่ห้อได้โฆษณาเกี่ยวกับคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยดูแลให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระชับ ช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง นั่นเป็นความจริง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถฟื้นฟูผิวของคุณได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆและทำให้ผิวเกิดความชุ่มชื้นเท่านั้น หลายปีที่ผ่านมา มีการค้นพบสูตรเครื่องสำอางที่นำเอาโปรตีนและกรดอะมิโนมาเป็นส่วนประกอบสำคัญ

อันที่จริงอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้นำโปรทีนมาใช้เป็นเวลานานแล้ว อย่างเช่น ครีมทาหน้า เซรั่ม ครีมหมักผม และน้ำมันหอม ที่ประกอบไปด้วยคอลลาเจน อิลาสตินและเคราติน แต่ทั้งหมดนี้ทำปฏิกริยากับผิวแค่เพียงผิวเผินเท่านั้น เนื่องจากสารที่นำมาใช้มีโมเลกุลขนาดใหญ่เกินกว่าจะซึมลึกลงไปในชั้นของผิวหนังได้

ปัจจุบัน เปปไทด์กลายเป็นนวัตกรรมชั้นนำด้านความงาม เนื่องจากมีคุณสมบัติหลายประการ รวมทั้งสามารถควบคุมการทำงานของเซลล์และสามารถแทรกซึมผ่านผิวหนังชั้นบนได้เป็นอย่างดี หรืออาจกล่าวได้ว่า เปปไทด์ สามารถควบคุมกระบวนการทำงานของเซล์ผิว รวมถึงการเปลี่ยนสภาพผิวที่เปลี่ยนไปตามวัย

เปปไทด์คืออะไร?
เป็นที่รู้จักดีว่า คอลลาเจน คือโปรทีนที่ถูกสร้างขึ้นจากห่วงโซ่โมเลกุลของกรดอะมิโนหลายชนิดเรียงต่อกัน เปปไทด์ก็มีโครงสร้างทางเคมีเช่นเดียวกับโปรทีนแต่มีความยาวน้อยกว่า โดยก่อตัวขึ้นจากชิ้นส่วนของกรดอะมิโน หนึ่งโซ่โปรตีนประกอบด้วยกรดอะมิโนที่มีโมเลกุลขนาดเล็กหรือกรดอะมิโนที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่เรียงต่อกันเป็นสายยาว มากกว่า 50 โมเลกุล ตรงข้ามกับเปปไทด์ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่เรียงต่อกันน้อยกว่า 30-50 โมเลกุล

เปปไทด์ แบ่งออกเป็นเปปไทด์ที่ได้จากการสังเคราะห์และเปปไทด์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เปปไทด์ถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มทางชีวภาพ ฮอร์โมนและยาปฏิชีวนะ และปัจจุบันสามารถแยกออกเป็นสารสังเคราะห์ได้แล้ว

จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถระบุความแตกต่างระหว่างโปรทีนกับกรดอะมิโนเปปไทด์ได้อย่างชัดเจน นั่นหมายถึง เราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเครื่องสำอางค์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนที่ได้จากปลาช่วยปรับสภาพผิวได้ แต่ถ้าหากใช้วิธีการแยกคอลลาเจนออกเป็นเปปไทด์แล้วผสมลงในเนื้อครีม แน่นอนว่าอาจเกิดปฏิกิริยาที่ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้น เปปไทด์ทำหน้าที่หลายอย่างและมีหน้าที่เฉพาะทางชีวะวิทยา จากการตรวจสอบปริมาณเปปไทด์ในเครื่องสำอางด้วยเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์พบว่าเปปไทด์ที่พบในเครื่องสำอางสามารถบรรจุได้ในปริมาณที่ต่ำมาก (เพียงไม่กี่ ppm เมื่อเทียบกับครีมชะลอความแก่ ซึ่งใช้เปปไทด์ไปในปริมาณ 600-700 ppm) และยังไม่พบว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือมีสารพิษตกค้างในร่างกาย

เพื่อพัฒนาสาขาทางด้านวิทยาศาสตร์จึงได้มีการวิจัยเกี่ยวกับเปปไทด์อย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา

คอลลาเจนเป็นโปรทีนที่สำคัญชนิดหนึ่ง ช่วยทำให้ผิวมีความหนาและอ่อนนุ่ม เมื่อคอลลาเจนหยุดทำงาน เปปไทด์ที่สร้างขึ้นในรูปแบบเฉพาะจะส่งสัญญาณไปยังผิวซึ่งถูกทำลายและจำเป็นต้องสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ดังนั้นการใช้เปปไทด์เฉพาะพื้นผิวที่ถูกทำลายคือการเตรียมผิวให้ตอบสนองกับการสูญเสียคอลลาเจนและสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาแทนที่ นอกจากนี้เปปไทด์ยังกระตุ้นการจดจำเซล์ผิวให้กลับคืนสภาพความอ่อนเยาว์ ทำให้ระบบการทำงานภายในเซล์เริ่มสร้างโปรตีนมากขึ้นและ ยืดอายุการทำงานของผิวและเนื้อเยื่อเช่นเดียวกับระบบการทำงานในวัยหนุ่มสาว

เปปไทด์ทำงานกับผิวอย่างไร?

• กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและป้องกันการเปลี่ยนรูปของเซล์เชื่อมต่อในคอลลาเจน

• ทำให้ผิวเนียนนุ่ม

• กระตุ้นการทำงานของ superoxide dismutase (เอนไซม์ที่ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ)

• เพิ่มกลไกการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระแบบธรรมชาติ

• ควบคุม melanogenesis (ที่ช่วยขัดขวางการผลิตเมลานิน)

• บรรเทาอาการอักเสบและกระตุ้นกระบวนการเกิดใหม่ของเซล์ผิว

• มีส่วนช่วยในการเพิ่มกระบวนการไหลเวียนของเลือด

หน้าที่สำคัญของเปปไทด์คือช่วยรักษาและลดกระบวนการเกิดการอักเสบ กลไกการทำงานของกระบวนการต้านการอักเสบคือเชื่อมต่อกับสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้สามารถลดปฏิกิริยาในการทำลายฮอร์โมนซึ่งมีหน้าที่คล้ายอินเตอร์ลิวคิน ซึ่งเป็นสื่อกลางของระบบประสาทและมีผลโดยตรงกับต่อมใต้สมองส่วนล่าง

เปปไทด์ที่ผสมในเนื้อครีมให้ผลลัพธ์ในการฟื้นฟูและคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้อย่างแท้จริง ไม่เพียงต่อต้านการเปลี่ยนแปลงของผิวที่เกิดขึ้นตามวัย แต่ยังช่วยชลอริ้วรอยบนใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์กว่าที่ควรเป็น จากการนำเปปไทด์มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมความงาม ได้สะเทือนวงการของการทำโบทอกซ์หรือแม้แต่การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมความงามเลยทีเดียว

เนื่องจากเปปไทด์มีประสิทธิภาพการทำงานดีเยี่ยม จึงถูกนำมาใช้เฉพาะในเครื่องสำอางราคาแพงเท่านั้น

หนึ่งในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ขายดีของ นีนา บูดา คือ เจลบำรุงใต้ตา บี-ทอกซ์ (“B-Tox Eye Gel”) ประกอบด้วย อาร์กิไลน์ (สารสังเคราะห์ต่อต้านการเกิดริ้วรอย) ซึ่งเป็นนูโรเปปไทด์สังเคราะห์ มีผลคล้ายกับสารพิษจากโบทูลินั่มหรือการฉีดโบทอกซ์ แต่แตกต่างจากการทำโบทอกซ์ตรงที่ช่วยยับยั้งการทำงานของสื่อกลางระบบประสาททำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ในขณะที่โบทอกซ์ทำหน้าที่เพียงเป็นสื่อกลางในการขัดขวางการหดตัวของกล้ามเนื้อในการก่อตัวของริ้วรอย  ผลที่ได้จากการทำงานของอาร์กิไลน์ในการยั้บยั้ง ช่วยลดการเกิดริ้วรอยที่เปลี่ยนไปตามวัย รอยเหี่ยวย่นที่เกิดจากการยิ้มหรือขมวดคิ้วจะสังเกตุเห็นได้น้อยลง อาร์กิไลน์ยังช่วยเพิ่มกระบวนการผลิตโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการบำรุงผิวรอบดวงตาอีกด้วย

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ไตรเปปไทด์สังเคราะห์พิเศษ ที่เรียกว่า Syn-ake (เป็นสารประกอบ peptide ที่ชื่อ Dipeptide Diaminobutyroyl Benzylamide Diacetate) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่มีในครีมซีเนค (Synake cream) ชุดผลิตภัณฑ์โกลเด้น แทททู ทำหน้าที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงหน่วยรับรู้การทำงานของกล้ามเนื้ออะเซติลโคลีนหรือสารสื่อประสาท  และ Syn-ake ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาผิวหน้าให้เรียบเนียนและทำหน้าที่ต่อต้านริ้วรอย โดยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อบนใบหน้า เปปไทด์ชนิดนี้ทำหน้าที่คล้ายกับ Waglerin 1 (สารระงับความรู้สึกที่จุดเชื่อมต่อระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อที่อยู่ในส่วนขมับของงูแมวเซาหรืองูพิษชนิดหนึ่ง) ซึ่งออกฤทธิ์ทำให้เหยื่อที่ถูกงูพิษชนิดนี้กัดเป็นอัมพาตได้ จากการทดลองนำ Syn-ake มาใช้รักษาทางคลินิกนับว่าประสบความสำเร็จ ช่วยลดริ้วรอยลึกได้ถึง 52% ซึ่งมีความปลอดภัยและช่วยผ่อนคลายเซลล์สื่อประสาทกล้ามเนื้อ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้าจะช่วยป้องกันริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์บนใบหน้า และในขณะเดียวกันยังทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

นอกจากนี้ นีนา บูดา ยังมีผลิตภัณฑ์อีก 3 คอลเล็คชั่น เช่น โกลด์ คอลลาเจน เจล (Gold Collagen Gel) สาหร่ายมาส์คหน้า (Algae mask) และครีมกำจัดสิว (Acne Killer cream) ซึ่งมีส่วนผสมของ Matryxil (สารต่อต้านการเกิดริ้วรอย) Matryxil เป็นเปปไทด์ที่ช่วยต่อต้านริ้วรอยแห่งวัยชนิดหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโน 5 ชนิด (lysine-threonine-threonine-lysine-serine) ห่วงโซ่นี้จะทำปฏิกิริยากับผิวชั้นในเพื่อกระตุ้นสารสังเคราะห์ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเนื้อเยื่อผลิตเซลล์ผิว (matrix) อย่างเช่น คอลลาเจน  อีลาสติน และglucosamnoglycans เปปไทด์ชนิดนี้เรียกว่าสารกระตุ้นคอลลาเจน เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับเซล์ได้โดยตรงและสั่งการสารสังเคราะห์เหล่านั้นให้ทำหน้าที่เฉพาะอย่าง รวมถืงการซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลาย  Palmitoyl Pentapeptide-4 มีคุณสมบัติในการต่อต้านริ้วรอยเช่นเดียวกับครีมชลอความแก่ (เรตินอล) เนื่องจากมีจุดเด่นในการลดเลือนริ้วรอยลึก ฟื้นฟูผิวเสียจากการถูกแสงแดด แต่มีความปลอดภัยมากกว่าเรตินอล อีกทั้งยังไม่มีผลข้างเคียง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์และช่วยปกป้องริ้วรอยแห่งวัยได้นานขึ้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 1 เดือน

สิ่งสำคัญที่ควรทราบเกี่ยวกับสารสังเคราะห์คอลลาเจนที่ได้จากเปปไทด์ ที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้เกี่ยวกับความงาม ที่มีสรรพคุณในการต้านการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ หมายถึงอะไร ? จากข้อมูลทางสถิติ ผิวของคนที่มีอายุแรกเกิดจนถึง16 ปี จะมีปริมาณคอลลาเจนสูงที่สุด และเมื่อายุเพิ่มมากขึ้นจำนวนคอลลาเจนจะลดลง เมื่ออายุ 45 คอลลาเจนในผิวจะเหลืออยู่ประมาณ 5 %  หากใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของเปปไทด์จะทำให้คุณมีโอกาสดึงคอลลาเจนกลับคืนสู่ผิวอีกครั้ง

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเปปไทด์ถือเป็นเวชสำอางค์ บริษัทที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพในการรับผิดชอบเท่านั้นที่สามารถผลิตเครื่องสำอางค์ด้วยเทคโนโลยีเปปไทด์ได้